7 ปัญหาที่เกิดจากการใช้ลวดเชื่อมผิดประเภท พร้อมแนวทางการแก้ไขโดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริง

ในการเชื่อมโลหะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานเชื่อมโครงสร้างอาคาร สแตนเลส อะลูมิเนียม หรือเหล็กกล้า การเลือกใช้ ลวดเชื่อม ให้ตรงกับลักษณะของวัสดุและประเภทงานนั้นสำคัญยิ่งกว่าที่หลายคนคิด ความผิดพลาดในการเลือกใช้งานอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างโดยตรง รวมถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแบบไม่จำเป็น

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในการจัดจำหน่ายลวดเชื่อมให้กับทั้งภาครัฐและเอกชน บริษัท UDO ขอแนะนำ 7 ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นจากการใช้ลวดเชื่อมผิดประเภท พร้อมแนวทางแก้ไขที่ถูกต้องตามหลักวิชาชีพ

1. แนวเชื่อมแตกร้าวหลังใช้งาน

สาเหตุ: ลวดเชื่อมที่ไม่เหมาะกับชนิดโลหะ เช่น ใช้ลวดเชื่อมทั่วไปกับสแตนเลส หรือโลหะผสมที่มีความแข็งสูง

วิธีแก้: เลือกลวดเชื่อมที่ตรงกับวัสดุ เช่น 308L หรือ 316L สำหรับงานสแตนเลส และควบคุมอุณหภูมิขณะเชื่อมให้เหมาะสม 

2. เกิดรูพรุน (Porosity) ในแนวเชื่อม

สาเหตุ: ลวดเชื่อมไม่เหมาะกับกระบวนการ หรือมีสิ่งปนเปื้อน เช่น น้ำมัน สนิม ความชื้น

วิธีแก้: ตรวจสอบและเก็บรักษาลวดเชื่อมในที่แห้ง เลือกลวดเชื่อมที่ออกแบบมาสำหรับกระบวนการ MIG, TIG หรือ Flux-Cored อย่างเหมาะสม 

3. แนวเชื่อมมีลักษณะขรุขระ ไม่เรียบ

สาเหตุ: ใช้ลวดเชื่อมที่ไม่ตรงกับกระบวนการหรือกำลังไฟฟ้าไม่เหมาะสม

วิธีแก้: เลือกลวดเชื่อมที่ออกแบบเฉพาะสำหรับเครื่องเชื่อมที่ใช้ และตรวจสอบค่ากระแสไฟตามคู่มือของลวดเชื่อมนั้น ๆ

4. แนวเชื่อมเกิดสนิมเร็วกว่าปกติ

สาเหตุ: ใช้ลวดเชื่อมที่ไม่มีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อน

วิธีแก้: เลือกลวดเชื่อมที่มีสารผสมต้านสนิม เช่น ลวดเชื่อมสแตนเลส หรือลวดที่มีโครเมียมสูงในส่วนผสม

5. เชื่อมไม่ติด หรือลวดไหม้เร็วผิดปกติ

สาเหตุ: ใช้ลวดเชื่อมขนาดไม่ตรงกับงานหรือความหนาของชิ้นงาน

วิธีแก้: พิจารณาความหนาของชิ้นงาน แล้วเลือกขนาดของลวดเชื่อมให้เหมาะสม เช่น ลวดเชื่อม 2.6 มม. สำหรับงานบาง และ 3.2 มม. สำหรับงานทั่วไป

6. เสียเวลาและต้นทุนจากการเชื่อมซ้ำ

สาเหตุ: ลวดเชื่อมที่ไม่มีความสม่ำเสมอในการหลอมตัว

วิธีแก้: ใช้ลวดเชื่อมจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน เช่น ลวดเชื่อมที่ผ่านมาตรฐาน AWS หรือ ISO ซึ่งสามารถค้นหาได้จาก เว็บไซต์ของ AWS

7. เกิดควันพิษหรือกลิ่นรุนแรงระหว่างเชื่อม

สาเหตุ: ใช้ลวดเชื่อมที่มีสารฟลักซ์ไม่เหมาะกับการใช้งานภายในพื้นที่ปิด

วิธีแก้: ใช้ลวดเชื่อมที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่อับอากาศ เช่น ลวดเชื่อมไร้ฟลักซ์ หรือเชื่อมระบบ TIG ที่ไม่ก่อควันมาก 

บทสรุป

การเลือกใช้ ลวดเชื่อม ให้เหมาะสมกับประเภทงาน ไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาทางเทคนิค แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน ลดต้นทุนซ่อมแซม และยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างได้อย่างมีนัยสำคัญ หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้ลวดเชื่อมชนิดใด ทีมงานของเราที่ UDO พร้อมให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้วยประสบการณ์จริงในภาคสนาม

 

เลือกสิ่งที่เหมาะสมตั้งแต่แรก คือการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าการแก้ไขในภายหลังเสมอ