สำหรับช่างเชื่อมือใหม่ หรือแม้แต่ช่างทั่วไปที่ต้องการพัฒนาฝีมือในการเชื่อมโลหะ การเลือกใช้ ลวดเชื่อม ที่เหมาะสมกับประเภทของโลหะที่ใช้งานนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะลวดเชื่อมที่เลือกใช้ไม่ถูกต้องอาจส่งผลต่อรอยเชื่อมที่ไม่แข็งแรง เกิดสนิม หรือแตกร้าวได้ง่าย
ในฐานะผู้มีประสบการณ์ยาวนานด้านการจำหน่ายลวดเชื่อมจาก บริษัท UDO เราจึงขอแนะนำแนวทางสำหรับมือใหม่ในการเลือก ลวดเชื่อมให้ตรงกับประเภทของโลหะ เพื่อให้คุณเริ่มต้นใช้งานได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ
🔧 ลวดเชื่อมคืออะไร และทำไมต้องเลือกให้ตรงกับโลหะ
ลวดเชื่อม คือวัสดุที่ใช้เชื่อมต่อโลหะสองชิ้นเข้าด้วยกัน โดยอาศัยความร้อนจากแหล่งจ่ายไฟฟ้า หรือเครื่องเชื่อม เพื่อหลอมลวดให้เป็นเนื้อเดียวกับชิ้นงาน การเลือกใช้ลวดเชื่อมที่ไม่เหมาะสมกับโลหะที่ต้องการเชื่อม จะทำให้รอยเชื่อมขาดคุณภาพ เช่น ไม่ยึดเกาะ หรือมีรอยร้าวในภายหลัง
🔍 ประเภทโลหะ และลวดเชื่อมที่เหมาะสม
1. เหล็กกล้าคาร์บอน (Mild Steel)
คุณสมบัติ: เป็นโลหะที่ใช้งานทั่วไปมากที่สุด ราคาประหยัด เชื่อมง่าย
ลวดเชื่อมที่เหมาะสม:
- ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (SMAW): ใช้ลวด E6013, E7018
- ลวดเชื่อม MIG (GMAW): ใช้ลวด ER70S-6
คำแนะนำ: เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่ เพราะวัสดุไม่ซับซ้อน เชื่อมได้ง่าย และมีตัวเลือกหลากหลาย
2. สแตนเลส (Stainless Steel)
คุณสมบัติ: ทนต่อการกัดกร่อน นิยมใช้ในงานอาหาร ยา และของตกแต่ง
ลวดเชื่อมที่เหมาะสม:
- ลวดเชื่อม TIG: ใช้ลวด ER308L, ER316L
- ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์: ใช้ลวด E308L-16, E316L-16
คำแนะนำ: การเชื่อมสแตนเลสต้องระวังเรื่องความร้อนสะสมและการเกิดสนิมบริเวณรอยเชื่อม ควรใช้ลวดที่ตรงตามเกรดของวัสดุ
3. อะลูมิเนียม (Aluminum)
คุณสมบัติ: น้ำหนักเบา ทนต่อการเกิดสนิมสูง แต่มีจุดหลอมเหลวต่ำ
ลวดเชื่อมที่เหมาะสม:
- ลวดเชื่อม TIG หรือ MIG: ใช้ลวด ER4043 หรือ ER5356
คำแนะนำ: ควรใช้เครื่องเชื่อมที่สามารถปรับกระแสไฟได้อย่างแม่นยำ และเลือกใช้ลวดเชื่อมอะลูมิเนียมโดยเฉพาะ
4. เหล็กหล่อ (Cast Iron)
คุณสมบัติ: แข็งแต่เปราะ เชื่อมยากที่สุดในบรรดาโลหะ
ลวดเชื่อมที่เหมาะสม:
- ลวดเชื่อมประเภทนิกเกิล (Nickel Electrode) เช่น ENi-CI
- บางกรณีอาจใช้ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์พิเศษที่พัฒนาเฉพาะ
คำแนะนำ: ควรพรีฮีท (Preheat) โลหะก่อนการเชื่อม และควรปล่อยให้เย็นช้าเพื่อหลีกเลี่ยงรอยร้าว
✅ เทคนิคการเลือกซื้อลวดเชื่อมสำหรับมือใหม่
- ดูประเภทของงานที่ทำ: งานภาคสนาม งานซ่อม หรือเชื่อมในโรงงาน ต้องใช้ลวดเชื่อมต่างชนิดกัน
- เลือกตามชนิดโลหะ: หากไม่แน่ใจวัสดุที่เชื่อม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือทีมขายที่มีประสบการณ์
- เช็กขนาดลวดเชื่อม: ขนาดที่นิยมคือ 2.6 มม. และ 3.2 มม. สำหรับงานทั่วไป หากเชื่อมโลหะบาง ใช้ขนาดเล็กลง
- พิจารณาเครื่องเชื่อมที่มี: เครื่องเชื่อมแบบ AC หรือ DC มีผลต่อประเภทลวดที่สามารถใช้งานได้
- ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้: เพื่อให้มั่นใจว่าได้ลวดเชื่อมของแท้ มาตรฐานสูง เช่นที่ UDO
สรุป
การเลือกซื้อลวดเชื่อมให้เหมาะกับประเภทโลหะ ไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเข้าใจพื้นฐานของวัสดุ และรู้ว่าลวดแบบไหนใช้กับงานอะไร ความรู้เบื้องต้นนี้จะช่วยให้มือใหม่เริ่มต้นงานเชื่อมได้อย่างมั่นใจ และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจส่งผลเสียต่อชิ้นงาน
ที่ บริษัท UDO เราจำหน่ายลวดเชื่อมหลากหลายประเภท พร้อมให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อให้คุณได้ลวดเชื่อมที่เหมาะกับงานทุกประเภท ทั้งในอุตสาหกรรมก่อสร้าง งานโลหะ หรืองานเฉพาะทาง
🔗 สนใจลวดเชื่อมคุณภาพ คลิกชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
👉 https://www.udo.co.th/category_product/กลุ่มลวดเชื่อม