งานเชื่อมใต้น้ำเป็นหนึ่งในงานที่ท้าทายที่สุดในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมบำรุงโครงสร้างใต้น้ำ ท่อส่งน้ำมัน หรือโครงสร้างสะพาน งานเหล่านี้ต้องอาศัยความชำนาญและอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะ หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของงานนี้คือ ลวดเชื่อม ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของงานเชื่อม บทความนี้จะแชร์ข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนลงมือทำงานเชื่อมใต้น้ำ
ลักษณะเฉพาะของงานเชื่อมใต้น้ำ
การเชื่อมใต้น้ำมีความซับซ้อนมากกว่างานเชื่อมทั่วไป เนื่องจากต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันน้ำและอุณหภูมิที่แตกต่างจากบนบก ปัญหาหลักที่พบได้แก่:
- การเกิด Hydrogen Embrittlement จากการดูดซับไฮโดรเจนในน้ำ
- การระบายความร้อนที่รวดเร็ว ทำให้แนวเชื่อมเปราะ
- ความเสี่ยงต่อไฟฟ้าช็อตและอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ การเลือก ลวดเชื่อม ที่เหมาะสมและการใช้เทคนิคที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ประเภทของงานเชื่อมใต้น้ำ
- Wet Welding (เชื่อมเปียก)
ช่างเชื่อมทำงานโดยตรงใต้น้ำ ลวดเชื่อมต้องมีสารเคลือบที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามารบกวนการเกิดอาร์คไฟฟ้า
- ข้อดี: ค่าใช้จ่ายต่ำ ทำงานได้รวดเร็ว
- ข้อเสีย: ความเสี่ยงสูงต่อผู้ปฏิบัติงาน คุณภาพแนวเชื่อมต่ำกว่าแบบแห้ง - Dry Welding (เชื่อมแห้ง)
ใช้ห้องแห้งแรงดันสูงใต้น้ำสำหรับการเชื่อม
- ข้อดี: คุณภาพงานเชื่อมใกล้เคียงกับงานบนบก
- ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง ต้องใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์พิเศษ
คุณสมบัติของลวดเชื่อมที่เหมาะกับงานเชื่อมใต้น้ำ
- กันความชื้นได้ดี: ลวดเชื่อมต้องมีสารเคลือบป้องกันน้ำ เพื่อรักษาอาร์คและลดปัญหาความพรุนในแนวเชื่อม
- ทนแรงดัน: เหมาะสำหรับการเชื่อมในสภาพที่มีแรงดันสูง
- ลดการเกิดไฮโดรเจน: เพื่อลดความเปราะของแนวเชื่อม ควรเลือกใช้ลวดที่มีค่าความชื้นต่ำมาก
ลวดเชื่อมที่นิยมใช้ในงานนี้ เช่น E7014 และ E7018 ซึ่งเป็นลวดเชื่อมแบบหุ้มฟลักซ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดการซึมซับความชื้น และเหมาะกับการเชื่อมใต้น้ำ
เทคนิคสำคัญสำหรับการเชื่อมใต้น้ำ
- ควบคุมกระแสไฟและแรงดันอย่างเหมาะสม: เพื่อป้องกันการดับของอาร์คไฟฟ้าในน้ำ
- ใช้ท่าทางการเชื่อมที่มั่นคง: เช่น เทคนิคการลากอิเล็กโทรด (Dragging Technique) เพื่อป้องกันการเกิดช่องว่าง
- การอบลวดเชื่อมก่อนใช้งาน: เพื่อไล่ความชื้น ลดโอกาสการเกิดรูพรุน
อันตรายและข้อควรระวัง
- ความเสี่ยงต่อไฟฟ้าช็อตจากการเชื่อมใต้น้ำ
- การเกิดแก๊สพิษ เช่น ไฮโดรเจนและออกซิเจน
- แรงดันน้ำที่ส่งผลต่อสุขภาพผู้ปฏิบัติงาน
มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับงานเชื่อมใต้น้ำควรอ้างอิงจากแนวทางของ American Welding Society (AWS) ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ เทคนิค และข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัย
สรุป
งานเชื่อมใต้น้ำเป็นงานที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความชำนาญสูง การเลือกใช้ ลวดเชื่อม ที่เหมาะสมจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้แนวเชื่อมมีคุณภาพ แข็งแรง และปลอดภัย หากคุณต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้ลวดเชื่อมที่เหมาะสำหรับงานใต้น้ำ ทีมงาน UDO พร้อมให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกงานเชื่อม