ลวดเชื่อมมีกี่ประเภท? เจาะลึกความแตกต่างและการเลือกใช้ให้ตรงกับโลหะที่ต้องการเชื่อม

ในวงการอุตสาหกรรมและงานเชื่อมโลหะ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ “ลวดเชื่อม” เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะการเลือกใช้ลวดเชื่อมที่เหมาะสมกับประเภทของโลหะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของชิ้นงาน ความแข็งแรง และความปลอดภัยในระยะยาว ด้วยประสบการณ์จากทีมงานของบริษัท UDO ซึ่งเชี่ยวชาญในด้านลวดเชื่อมมานานหลายปี เราขอพาคุณมาทำความรู้จักกับประเภทของลวดเชื่อมแต่ละชนิด พร้อมแนะนำการเลือกใช้ให้ตรงกับงานที่คุณต้องการ


 

🔧 ลวดเชื่อมคืออะไร?

ลวดเชื่อม คือวัสดุที่ใช้เชื่อมโลหะสองชิ้นให้ติดกัน โดยอาศัยความร้อนทำให้ลวดเชื่อมหลอมละลายรวมเข้ากับชิ้นงาน ซึ่งลวดเชื่อมแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะกับวัสดุและกระบวนการเชื่อมที่แตกต่างกัน


 

 ประเภทของลวดเชื่อมและการใช้งานที่เหมาะสม

  1. ลวดเชื่อมไฟฟ้า (Shielded Metal Arc Welding - SMAW)

    ลวดเชื่อมชนิดนี้ (Shielded Metal Arc Welding - SMAW) มีการเคลือบฟลักซ์รอบลวด ทำให้สามารถสร้างแก๊สป้องกันในระหว่างเชื่อม จึงสามารถใช้งานกลางแจ้งได้ดี เหมาะกับเหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าความแข็งแรงสูง และงานโครงสร้างทั่วไป

    แนะนำ:

    - ใช้ E6013 สำหรับงานเชื่อมที่ต้องการแนวเชื่อมเรียบ - ใช้ E7018 สำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น โครงสร้างอาคาร -
  2.  ลวดเชื่อม MIG (Gas Metal Arc Welding - GMAW)

    ลวดเชื่อม MIG ใช้แก๊สป้องกันร่วมกับลวดต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมได้เร็ว แนวเชื่อมเรียบ เหมาะกับการผลิตจำนวนมาก เหล็กกล้า สแตนเลส และโลหะบาง

    แนะนำ:

    - ลวด ER70S-6 สำหรับเหล็กทั่วไป

    - ลวด ER308L สำหรับสแตนเลส 304

  3. ลวดเชื่อม TIG (Gas Tungsten Arc Welding - GTAW)

    ลวดเชื่อม TIG เหมาะกับงานที่ต้องการความประณีตสูง เช่น สแตนเลสบาง อลูมิเนียม ทองแดง หรือโลหะผสม เนื่องจากควบคุมแนวเชื่อมได้ละเอียดและสะอาด 

    แนะนำ:

    - ลวด ER316L สำหรับงานสแตนเลสเกรดสูง
    - ลวด ER4043 สำหรับอลูมิเนียม
  4. ลวดเชื่อมฟลักซ์คอร์ (Flux-Cored Arc Welding - FCAW)

    ลวดเชื่อมชนิดนี้คล้าย MIG แต่มีฟลักซ์อยู่ภายในลวด ช่วยให้เชื่อมกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องใช้แก๊ส เหมาะกับงานโครงสร้างขนาดใหญ่

    แนะนำ:
    -
    ลวด E71T-1 สำหรับโครงสร้างอุตสาหกรรม เช่น โรงงาน, สะพาน, เรือ

  5.  ลวดเชื่อมซับเมอร์จ (Submerged Arc Welding - SAW)

    ลวดชนิดนี้ใช้ในงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องการความเร็วและความต่อเนื่อง เช่น การเชื่อมท่อ เชื่อมแผ่นเหล็กหนา

    แนะนำ: ใช้ลวดเปลือยคู่กับฟลักซ์เฉพาะทาง 


    วิธีเลือกใช้ลวดเชื่อมให้ตรงกับโลหะ

    ✅ 1. พิจารณาจากประเภทโลหะ


    1.1 เหล็กกล้าคาร์บอน: ใช้ได้ทั้งลวดเชื่อมไฟฟ้า, MIG และฟลักซ์คอร์
    1.2 สแตนเลส: ใช้ TIG หรือ MIG เพื่อความสะอาดของแนวเชื่อม
    1.3 อลูมิเนียม: ใช้ TIG หรือลวด MIG พิเศษสำหรับอลูมิเนียม
    1.4 ทองแดงหรือโลหะผสม: ควรใช้ TIG เพราะควบคุมได้ดี

✅ 2. พิจารณาจากตำแหน่งงานเชื่อม

เช่น งานเชื่อมแนวดิ่ง หรือแนวเหนือศีรษะ ควรใช้ลวดเชื่อมที่ออกแบบมาเฉพาะ เช่น E7018 ที่เหมาะกับทุกตำแหน่ง

✅ 3. พิจารณาจากเครื่องเชื่อมที่ใช้

- ใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้า: เหมาะกับลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

- ใช้เครื่องเชื่อม MIG: ใช้กับลวดต่อเนื่องและต้องมีระบบแก๊ส

- ใช้เครื่องเชื่อม TIG: ต้องการอุปกรณ์ควบคุมที่ละเอียด

ทำไมต้องเลือกซื้อลวดเชื่อมจาก UDO?

ที่ UDO เราเข้าใจดีว่าความสำเร็จของงานเชื่อมเริ่มจากการเลือกใช้วัสดุที่ถูกต้อง เรามีลวดเชื่อมคุณภาพมาตรฐานสากล พร้อมทีมที่ปรึกษาด้านเทคนิคมากประสบการณ์ ช่วยคุณเลือกวัสดุที่เหมาะสม ลดความผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพของงาน

🔗 ชมสินค้าและสั่งซื้อได้ที่นี่ >> ลวดเชื่อม

 


 

สรุป

ลวดเชื่อมมีหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทก็ออกแบบมาให้เหมาะสมกับโลหะและลักษณะงานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ให้ถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่มคือการป้องกันปัญหาในระยะยาว และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานในด้านความปลอดภัย ความแข็งแรง และความสวยงามของชิ้นงาน

 

หากคุณกำลังมองหาลวดเชื่อมที่ใช่ อย่าลังเลที่จะขอคำแนะนำจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ UDO เพราะเราไม่ใช่แค่ร้านขาย แต่คือพันธมิตรด้านงานเชื่อมของคุณ