ความแตกต่างของลวดเชื่อมเหล็กหล่อไฟฟ้า Ni-55 และ Ni-98

ลวดเชื่อมไฟฟ้าเหล็กหล่อโดยทั่วไปที่นิยมใช้กันทั่วไปจะมี 2 เกรด คือ นิกเกิล 55 หรือ NiCast 55 และ นิกเกิล 98 หรือ NiCast 98 แต่ก็ยังมีลวดเชื่อมเหล็กหล่อเกรดพิเศษอีกตัวที่สามารถเชื่อมได้ทุกประเภทชิ้นงานของเหล็กหล่อ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

มาเริ่มต้นที่

นิกเกิล 55

ลวดเชื่อมเหล็กหล่อไฟฟ้าในตลาดบ้านเราก้อจะมีอยู่หลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ Yawata, Gemini หรือ Powerweld  เเนวเชื่อมที่ได้จากลวดเชื่อมเกรดนี้ จะมีเนื้อค่อนข้างแข็งทำให้การกลึงแต่งแนวเชื่อมหลังจากการเชื่อมทำได้ค่อนข้างยาก แต่ข้อดีก็มีแนวเชื่อมที่ได้จากการเชื่อมลวดเกรดนี้คือทนต่อการกัดกร่อนและการเสียดสีได้เป็นอย่างดี ลวดตัวนี้จึงเหมาะสำหรับงานเชื่อมเหล็กหล่อที่ไม่ต้องการกลึงแต่งหลังการเชื่อม แนวเชื่อมที่ได้ค่อนข้างแข็งแรงเมื่อเทียบกับการใช้ลวด นิกเกิล 98

นิกเกิล 98

ลวดเชื่อมเหล็กหล่อไฟฟ้า นิกเกิลบริสุทธิ์ แนวเชื่อมที่ได้จากลวดเชื่อมเหล็กหล่อเกรด นิกเกิล 98 จะมีเนื้อค่อนข้างนุ่มกว่าตัว นิกเกิล 55 ทำให้การกลึงตัดแต่งหลังจากการเชื่อมทำได้ง่าย แนวเชื่อมมีความเหนียวยึดหยุ่นทนต่อการแตกร้าวได้เป็นอย่างดี ข้อเสียของลวดนิกเกิล 98 จะราคาค่อนข้างสูง ลวดตัวนี้เหมาะสำหรับงานเชื่อมเหล็กหล่อที่ต้องการการกลึงแต่งหลังการเชื่อม แนะนำควรเชื่อมแค่ชั้นเดียว เพื่อป้องกันการแตกร้าวของแนวแชื่อม

นิกเกิลเกรดพิเศษ GOLD 420

ลวดเชื่อมนิกเกิล GOLD 420 เป็นลวดเชื่อมเหล็กหล่อเกรดพิเศษที่สามารถเชื่อมทุกชนิดของเหล็กหล่อ แม้กระทั้งเหล็กหล่อเทาก็สามารถเชื่อมได้ GOLD 420 ยังสามารถเชื่อมชิ้นงานโดยไม่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิขณะเชื่อม โดยไม่ทำให้ชิ้นงานแตกร้าวหลังการเย็นตัวของแนวเชื่อม

 

ข้อแนะนำสำหรับการเชื่อมลวดเชื่อมเหล็กหล่อทั่วไป นิกเกิล 55 และ นิกเกิล 98 ควรใช้กระแสไฟต่ำขณะเชื่อม และรักษาระดับอุณหภูมิขณะเชื่อมไม่ให้เกิดความร้อนสะสมมากเกินไป เพราะถ้าความร้อนสะสมมากเกินไปขณะเชื่อม จะมีผลทำให้แนวเชื่อมมีการแตกร้าวหลังจากการเย็นตัวลงของชิ้นงาน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากในการเชื่อมลวดเชื่อมเหล็กหล่อ และควรที่จะทำความสะอาดชิ้นงานก่อนการเชื่อมเพื่อป้องกันการแตกร้าวหลังจากชิ้นงานเย็นตัวลง?