ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสคุณภาพต่ำ และวิธีเลือกให้ได้ของแท้

การเลือกใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสที่เหมาะสมไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของราคา แต่เป็นเรื่องของคุณภาพ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของชิ้นงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำและความแข็งแรงสูง เช่น อาหาร การแพทย์ และเคมีภัณฑ์ ลวดเชื่อมสแตนเลสที่ไม่ได้มาตรฐานสามารถสร้างความเสียหายต่อชิ้นงานและส่งผลต่อชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิตได้โดยตรง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านลวดเชื่อมจากบริษัท UDO ผู้จำหน่ายลวดเชื่อมคุณภาพสูงมากว่า 20 ปี เราขอแชร์ประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับปัญหาที่พบบ่อยจากการใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสคุณภาพต่ำ และแนวทางในการเลือกซื้อลวดเชื่อมแท้ที่เหมาะกับงานของคุณ

 


 

 

ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสคุณภาพต่ำ

  1. รอยเชื่อมแตกร้าวภายหลัง

    หนึ่งในสัญญาณชัดเจนที่สุดของลวดเชื่อมสแตนเลสคุณภาพต่ำคือรอยแตกร้าวในแนวเชื่อม Welding Defect หลังการใช้งาน ลวดที่ผลิตด้วยวัสดุด้อยคุณภาพหรือไม่ผ่านการควบคุมมาตรฐานทางเคมีจะทำให้โครงสร้างโลหะไม่แน่นหนา ส่งผลให้เกิดการแตกร้าวแม้ในสภาพการใช้งานปกติ

  2. ความต้านทานการกัดกร่อนต่ำ

     

    ลวดเชื่อมสแตนเลสที่มีปริมาณ Cr (โครเมียม) ต่ำกว่ามาตรฐานจะทำให้บริเวณเชื่อมเกิดสนิมเร็วกว่าส่วนอื่น แม้จะใช้กับงานสแตนเลสแท้ก็ตาม ปัญหานี้พบได้บ่อยในงานถังเก็บน้ำ ระบบท่อ และโครงสร้างกลางแจ้ง

  3. สะเก็ดเชื่อมจำนวนมาก

    ลวดคุณภาพต่ำมักให้การอาร์กที่ไม่เสถียร ทำให้เกิดสะเก็ดเชื่อมกระเด็นมาก ส่งผลให้ต้องเสียเวลาในการทำความสะอาดงาน เพิ่มต้นทุนและเวลาโดยไม่จำเป็น

  4. สีของแนวเชื่อมไม่สม่ำเสมอ

     

    แนวเชื่อมที่มีสีไม่สม่ำเสมอหรือมีสีคล้ำ อาจสะท้อนถึงอัตราการออกซิไดซ์ที่สูงเกินไป ซึ่งมักเกิดจากลวดเชื่อมที่ไม่ได้ผสมธาตุอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ชิ้นงานดูไม่เรียบร้อยและอาจส่งผลด้านคุณภาพในระยะยาว

  5. ความแข็งแรงของแนวเชื่อมต่ำ

    เมื่อผ่านการทดสอบแรงดึงหรือแรงกระแทก แนวเชื่อมที่ใช้ลวดคุณภาพต่ำจะมีค่าความทนทานต่ำกว่ามาตรฐาน อาจเกิดความเสียหายได้เมื่อใช้งานในสภาวะแรงสั่นสะเทือนหรือแรงดันสูง

     


     

    วิธีเลือกซื้อลวดเชื่อมสแตนเลสแท้และได้มาตรฐาน

  • ตรวจสอบมาตรฐานการผลิต (AWS/ISO)

    ลวดเชื่อมที่ดีควรมีการรับรองมาตรฐานเช่น AWS A5.4 E308L-16 ซึ่งจะระบุชัดถึงคุณสมบัติทางเคมีและกลศาสตร์ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบจากฉลากหรือเอกสารรับรองของสินค้าได้

  • พิจารณายี่ห้อที่เชื่อถือได้

    เลือกใช้ลวดเชื่อมจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง เช่น Yawata ที่ได้รับการยอมรับในวงการเชื่อมโลหะทั่วโลก โดยเฉพาะรุ่น Yawata 308L-16 ที่เหมาะกับงานเชื่อมสแตนเลส 304, 304L และงานทั่วไปที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง

  • ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

    การซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เช่น บริษัท UDO จะช่วยป้องกันการซื้อสินค้าปลอม หรือสินค้าที่เสื่อมคุณภาพจากการจัดเก็บไม่ถูกต้อง
  • สังเกตลักษณะภายนอกของลวด

    ลวดเชื่อมแท้จะมีผิวเรียบ สม่ำเสมอ ไม่มีรอยสนิมหรือรอยแตกร้าว และบรรจุในกล่องที่มีตราและข้อมูลผลิตภัณฑ์ชัดเจน

  • ขอใบ Certificate หรือ Test Report

    สำหรับงานอุตสาหกรรมหรือโครงการสำคัญ ควรขอเอกสารรับรองคุณสมบัติ (Material Test Certificate) เพื่อยืนยันว่าลวดเชื่อมนั้นมีคุณภาพตรงตามที่ระบุ

     


     

     

    สรุป: ความมั่นใจเริ่มต้นที่การเลือกวัสดุคุณภาพ

    การใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสคุณภาพต่ำอาจดูเหมือนประหยัดในระยะสั้น แต่ในระยะยาวกลับเพิ่มต้นทุนจากการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นงานเสียหาย ดังนั้นผู้ใช้งานควรให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุที่ผ่านการรับรอง มีแหล่งที่มาชัดเจน และเหมาะกับประเภทงาน

    บริษัท UDO พร้อมให้คำปรึกษาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงในการเลือกใช้ลวดเชื่อมให้เหมาะสมกับงาน และจำหน่ายลวดเชื่อมคุณภาพแท้จากแบรนด์ชั้นนำเช่น Yawata 308L-16 ซึ่งเหมาะสำหรับงานสแตนเลสที่ต้องการความทนทานสูงและแนวเชื่อมที่เรียบสวย

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Yawata 308L-16 ได้ที่:
    👉 https://www.udo.co.th/product/detail/yawata-308l-16