การเชื่อมสแตนเลสสตีลด้วยลวดเชื่อมเป็นทักษะที่ต้องการความแม่นยำและประสบการณ์ แม้จะเป็นช่างเชื่อมที่มีความชำนาญแล้ว ก็อาจพบปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพงาน บทความนี้รวบรวม 7 ปัญหาหลักที่พบบ่อยที่สุด พร้อมวิธีแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยยกระดับฝีมือการเชื่อมของคุณ
ปัญหาที่ 1: รอยเชื่อมมีสีคล้ำและเกิดออกซิเดชัน
สาเหตุและอาการ
ปัญหานี้เกิดจากการสัมผัสกับอากาศมากเกินไประหว่างการเชื่อม ทำให้เกิดการออกซิไดซ์ ส่งผลให้รอยเชื่อมมีสีคล้ำ น้ำเงิน หรือม่วง และสูญเสียคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อน
วิธีแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญ
เพิ่มอัตราการไหลของแก๊สป้องกันให้เหมาะสม โดยทั่วไปควรอยู่ในช่วง 12-20 ลิตรต่อนาที ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวพ่นแก๊สสะอาดและไม่มีสิ่งกีดขวาง สำหรับงานที่ต้องการคุณภาพสูง ควรใช้เทคนิค Back Purging เพื่อป้องกันด้านหลังของรอยเชื่อม
ปัญหาที่ 2: การเกิดรูพรุน (Porosity) ในรอยเชื่อม
การวินิจฉัยปัญหา
รูพรุนปรากฏเป็นรูเล็กๆ บนหรือภายในรอยเชื่อม เกิดจากแก๊สที่ติดอยู่ในโลหะเชื่อมขณะแข็งตัว ส่งผลให้ความแข็งแรงของรอยเชื่อมลดลง
วิธีการป้องกันและแก้ไข
ทำความสะอาดผิวงานให้สมบูรณ์ก่อนเชื่อม กำจัดน้ำมัน สนิม และความชื้น ใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสคุณภาพสูงที่เก็บรักษาในสภาพแห้ง ปรับกระแสเชื่อมให้เหมาะสมและรักษาความเร็วการเชื่อมให้สม่ำเสมอ
ปัญหาที่ 3: การเกิดรอยแตก (Cracking) หลังการเชื่อม
ประเภทของรอยแตก
รอยแตกในการเชื่อมสแตนเลสมี 2 ประเภทหลัก คือ Hot Cracking (รอยแตกขณะร้อน) และ Cold Cracking (รอยแตกขณะเย็น) ซึ่งเกิดจากความเครียดภายในและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโลหะ
เทคนิคการป้องกัน
ควบคุมความร้อนให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการให้ความร้อนจุดเดียวนานเกินไป ใช้เทคนิค Weave หรือ Stringer Bead ตามความเหมาะสม และควบคุม Interpass Temperature ไม่ให้สูงเกิน 150°C
ปัญหาที่ 4: การติดขาดหรือ Lack of Fusion
อาการและผลกระทب
งานเชื่อมไม่ได้ผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ความแข็งแรงลดลงและอาจเกิดการรั่วซึมในงานที่ต้องการความแน่นหนา
วิธีแก้ไขจากมืออาชีพ
เพิ่มกระแสเชื่อมให้เหมาะสม ลดความเร็วการเชื่อมลง และปรับมุมของปืนเชื่อมให้ถูกต้อง ตรวจสอบการเตรียมร่องเชื่อม (Groove Preparation) ให้เหมาะสมกับความหนาของชิ้นงาน
ปัญหาที่ 5: รอยเชื่อมไม่สม่ำเสมอและไม่สวยงาม
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ
ความไม่สม่ำเสมอของรอยเชื่อมเกิดจากการควบคุมพารามิเตอร์ไม่ดี การเคลื่อนไหวของมือไม่สม่ำเสมอ หรือการตั้งค่าเครื่องเชื่อมผิด
เทคนิคการปรับปรung
ฝึกฝนการเคลื่อนไหวมือให้สม่ำเสมอ ตั้งค่า Arc Length ให้คงที่ และใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสที่มีคุณภาพดี ปรับ Travel Speed ให้เหมาะสมกับความหนาและตำแหน่งการเชื่อม
ปัญหาที่ 6: การเสียรูปของชิ้นงาน (Distortion)
สาเหตุของการเสียรูป
ความร้อนจากการเชื่อมทำให้เกิดการขยายตัวและหดตัวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ชิ้นงานเบี้ยวหรือโค้งงอ
วิธีการป้องกัน
ใช้เทคนิค Sequence Welding เชื่อมสลับจุดเพื่อกระจายความร้อน ใช้ Jig และ Fixture ยึดชิ้นงานให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และควบคุมปริมาณความร้อนที่ใส่ลงไปในชิ้นงาน
ปัญหาที่ 7: ลวดเชื่อมติดหัวพ่นหรือ Wire Feeding ผิดปกติ
การวินิจฉัยและแก้ไข
ปัญหานี้เกิดจากการตั้งค่า Wire Feed Speed ไม่เหมาะสม หรือ Contact Tip สึกหรอ ทำความสะอาดหรือเปลี่ยน Contact Tip ปรับแรงดึงลวดให้เหมาะสม และตรวจสอบเส้นทางการป้อนลวดให้ราบรื่น
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับการป้องกันปัญหา
การบำรุงรักษาอุปกรณ์
ทำความสะอาดเครื่องเชื่อมเป็นประจำ เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอตามระยะเวลาที่กำหนด และเก็บรักษาลวดเชื่อมในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
การศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ติดตามเทคโนโลยีและเทคนิคใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น การอบรมและใบรับรองจาก American Welding Society เพื่อพัฒนาทักษะการเชื่อมอย่างต่อเนื่อง
การปฏิบัติที่ดี
บันทึกพารามิเตอร์ที่ให้ผลดีไว้เป็นข้อมูลอ้างอิง ทดสอบบนชิ้นงานตัวอย่างก่อนเชื่อมงานจริง และใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน
สรุป
การแก้ไขปัญหาที่พบบ่อยในการใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และการปฏิบัติที่ถูกต้อง การป้องกันปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย รวมทั้งให้ผลงานที่มีคุณภาพสูง การศึกษาและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการใช้วัสดุคุณภาพดี จะทำให้คุณเป็นช่างเชื่อมสแตนเลสที่เชี่ยวชาญและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า